Location Problem (Plant Design #2)
Location Problem
ความสำคัญของการวิเคราะห์เลือกทำเลที่ตั้ง
1. การเลือกทำเลที่ตั้งมีผลระยะยาว
2. การเลือกทำเลที่ตั้งมีผลกระทบต่อ ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
1. การเลือกทำเลที่ตั้งมีผลระยะยาว
2. การเลือกทำเลที่ตั้งมีผลกระทบต่อ ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
สาเหตุที่เจ้าของกิจการทำการพิจารณาเลือกที่ตั้งโรงงานใหม่
“ความต้องการในการเพิ่มความสามารถการผลิต”
(เพิ่ม Production Capacity)
โดยปกติสามารถทำได้โดย
1. ขยายพื้นที่
2. เพิ่มสาขา
3. ย้ายโรงงาน
1. ขยายพื้นที่
2. เพิ่มสาขา
3. ย้ายโรงงาน
เพิ่ม Production Capacity => Resource (3M: Man, Machine, Material) เพิ่ม => Space เพิ่ม
ขั้นตอนของการเลือกทำเลที่ตั้ง
1. กำหนดเกณฑ์ (Criteria)
2. กำหนดปัจจัย (Factors)
3. กำหนดทางเลือก (Alternatives)
4. ประเมินทางเลือกต่างๆ (Evaluation)
5. ตัดสินใจ (Making Decisions)
3. กำหนดทางเลือก (Alternatives)
4. ประเมินทางเลือกต่างๆ (Evaluation)
5. ตัดสินใจ (Making Decisions)
ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกทำเลที่ตั้ง
- ความใกล้กับทางสัญจร (Proximity to Highway)
- ความใกล้กับสนามบิน (Access to a Major Airport)
- แหล่งแรงงาน (Labor Supply)
- ความใกล้กับแหล่งตลาด (Nearness to Maket)
- ความใกล้กับแหล่งวัตถุดิบ (Nearness to Raw Materials)
- ความใกล้กับที่ตั้งขององค์การหลัก
- ที่ดิน (land)
- การขนส่ง (Transportation)
- แหล่งน้ำ (Water Supply)
- พลังงานและสาธารณูปโภคต่างๆ (Power Supply )
- สภาพอากาศ (Climate)
- บริเวณสำหรับพักอาศัย (Residential Areas)
รูปแบบของการวิเคราะห์เลือกทำเลที่ตั้ง
- Qualitative Analysis
- Quantitative Analysis
[] Weight Method
[] Point Rating
Break Even Analysis
การเลือกทำเลที่ตั้งที่มีค่าใช้จ่ายรวมต่ำสุด (Minimize Total Cost) => มีค.สำคัญต่อผู้บริหาร ซึ่งจะใช้ในการประกอบการตัดสินใจในการเลือกทำเลที่ตั้ง
Total Cost (TC) หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อย้ายทำเลที่ตั้งของกิจการไป
!!!! ข้อควรระวัง !!!
1. TC เป็นการประมาณค่าที่จะเกิดในอนาคต ยังไม่เกิดขึ้นจริง
2. ค.เที่ยงตรง ขึ้นกับ ก.เก็บข้อมูลในอดีต
Total Cost (TC) มาจาก 2 ค่า
1. Fixed Cost (FC) = cost ที่ไม่แปรผันไปตามการผลิต
2. Variable Cost(VC) = cost ที่แปรผันไปตามการผลิต
1. Fixed Cost (FC) = cost ที่ไม่แปรผันไปตามการผลิต
2. Variable Cost(VC) = cost ที่แปรผันไปตามการผลิต
TC = FC + VC (Q)
TC = ค่าใช้จ่ายรวม
FC = ค่าใช้จ่ายคงที่
VC = ค่าใช้จ่ายแปรผัน/หน่วย
Q = ปริมาณการผลิตต่อหน่วยเวลา
VC = ค่าใช้จ่ายแปรผัน/หน่วย
Q = ปริมาณการผลิตต่อหน่วยเวลา
ค่าคงที่: FC, VC
ตัวแปรต้น: Q
ตัวแปรตาม: TC
ดังนั้น TC = FC + VC (Q) เป็นสมการเส้นตรง y = c + mx
[] ขั้นตอนการทำ Break Even Analysis
1. สเกตกราฟของค่าใช้จ่ายรวมของแต่ละทำเล
[] เทคนิค การดูว่าสมการคู่ไหนตัดกัน => เพื่อไม่ให้เสียเวลาหาจุดตัด ของสมการคู่ที่ไม่ตัดกัน
สมการคู่ที่ตัดกัน: (ดูง่ายๆ คือ คู่ TC1,TC2 มีเครื่องหมายเหมือนกับ คู่ VC1,VC2)
1. TC1 < TC2 and VC1 < VC2
2. TC1 > TC2 and VC1 > VC2
สมการคู่ที่ไม่ตัดกัน: (ดูง่ายๆ คือ คู่ TC1,TC2 มีเครื่องหมายตรงข้ามกับ คู่ VC1,VC2)
1. TC1 < TC2 and VC1 > VC2
2. TC1 < TC2 and VC1 > VC2
3. TC1 > TC2 and VC1 < VC2
4. TC1 < TC2 and VC1 > VC2
2. กำหนดจุดคุ้มทุนที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ
3. เลือกทำเลที่ตั้งที่ดีที่สุด (โรงงานจะกำหนดปริมาณการผลิตและเงื่อนไขมาให้ แล้วเราก็จะใช้เลือกทำเลที่ดีที่สุดได้)
3. เลือกทำเลที่ตั้งที่ดีที่สุด (โรงงานจะกำหนดปริมาณการผลิตและเงื่อนไขมาให้ แล้วเราก็จะใช้เลือกทำเลที่ดีที่สุดได้)
ตัวอย่าง ค่าใช้จ่ายคงที่และค่าใช้จ่ายแปรผันของทำเลที่ตั้ง 4 แห่ง คือ ก ข ค และ ง ดังตารางข้างล่าง
[1st] เขียนสมการ และสเกตกราฟ
ทำเล ก: TCก = 250,000 + 11Q
ทำเล ข: TCข = 100,000 + 30Q
ทำเล ค: TCค = 150,000 + 20Q
ทำเล ง: TCง = 200,000 + 35Q
(แก้ รูป)
[2nd] หา Q
การหาจุดตัดระหว่างกราฟ ทำเล ข กับ ทำเล ค ทำได้โดย
TCข = TCค
100,000+30Q = 150,000+20Q จะได้ว่า
Q = 5,000 ชิ้น/ปี
การหาจุดตัดระหว่างกราฟ ทำเล ค กับ ทำเล ก ทำได้โดย
TCค = TCก
TCข = TCค
100,000+30Q = 150,000+20Q จะได้ว่า
Q = 5,000 ชิ้น/ปี
การหาจุดตัดระหว่างกราฟ ทำเล ค กับ ทำเล ก ทำได้โดย
TCค = TCก
150,000+20Q = 250,000 + 11 Q จะได้ว่า
Q = 11,111 ชิ้น/ปี
(แก้ รูป)
ถ้าทำการผลิต 0 - 5,000 ชิ้น/ปี: ควรเลือกทำเลที่ตั้ง ข จึงจะทำให้ค่าใช้จ่ายรวมต่ำสุด
ถ้าทำการผลิต 5,000-11,111 ชิ้น/ปี: ควรเลือกทำเลที่ตั้ง ค จึงจะทำให้ค่าใช้จ่ายรวมต่ำสุด
ถ้าทำการผลิต มากกว่า 11,111 ชิ้น/ปี: ควรเลือกทำเลที่ตั้ง ก จึงจะทำให้ค่าใช้จ่ายรวมต่ำสุด
ถ้าทำการผลิต 5,000-11,111 ชิ้น/ปี: ควรเลือกทำเลที่ตั้ง ค จึงจะทำให้ค่าใช้จ่ายรวมต่ำสุด
ถ้าทำการผลิต มากกว่า 11,111 ชิ้น/ปี: ควรเลือกทำเลที่ตั้ง ก จึงจะทำให้ค่าใช้จ่ายรวมต่ำสุด
ดังนั้น ถ้าคาดว่าปริมาณการผลิตมากกว่า 8,000 ชิ้น/ปี (โรงงานกำหนดค่าประมาณมาให้)
ตอบ:
ถ้าทำการผลิต 8,000-11,111 ชิ้น/ปี: ควรเลือกทำเลที่ตั้ง ค
ถ้าทำการผลิต มากกว่า 11,111 ชิ้น/ปี: ควรเลือกทำเลที่ตั้ง ก
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กรณีที่ 1.
ถ้าทางโรงงานกำหนดว่าเลือก ทำเล ที่ตั้งใหม่ เพื่อ
เพิ่มผลผลิตในช่วงระหว่าง 4000-8000 ชิ้นต่อปี จงหาคำตอบของการเลือกทำเลที่ตั้ง
ถ้าทางโรงงานกำหนดว่าเลือก ทำเล ที่ตั้งใหม่ เพื่อ
เพิ่มผลผลิตในช่วงระหว่าง 4000-8000 ชิ้นต่อปี จงหาคำตอบของการเลือกทำเลที่ตั้ง
Ans:
Q = (4,000 , 5,000) => เลือก ทำเล ข
Q = (5,000 , 8,000) => เลือก ทำเล ค
กรณีที่ 2 จากกรณีที่ 1
ถ้า ผลการวิเคราะห์จากการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ
พบว่าคะแนน
ทำเล ก=55 ทำเล ข=60 ทำเล ค=65 ทำเล ง= 45
จงหาคำตอบของการเลือกทำเลที่ตั้ง
ถ้า ผลการวิเคราะห์จากการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ
พบว่าคะแนน
ทำเล ก=55 ทำเล ข=60 ทำเล ค=65 ทำเล ง= 45
จงหาคำตอบของการเลือกทำเลที่ตั้ง
Ans:
Q = (5,000 , 8,000) => เลือก ทำเล ค
เพราะ ทำเล ค เป็น maxscore. (ค = 65)
กรณีที่ 3 จากกรณีที่ 1
ถ้า ผลการวิเคราะห์จากการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ
พบว่าคะแนน
ทำเล ก=55 ทำเล ข=60 ทำเล ค=65 ทำเล ง= 70
จงหาคำตอบของการเลือกทำเลที่ตั้ง
ถ้า ผลการวิเคราะห์จากการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ
พบว่าคะแนน
ทำเล ก=55 ทำเล ข=60 ทำเล ค=65 ทำเล ง= 70
จงหาคำตอบของการเลือกทำเลที่ตั้ง
Ans:
ทางเลือกที่ 1 (เชิงคุณภาพ): เลือก ทำเล ง แต่จะไม่สามารถผลิตที่ค่าใช้จ่ายต่ำสุดได้ (Min. TC)
เพราะ ทำเล ข เป็น maxscore. (ข = 70)
ทางเลือกที่ 2 (เชิงปริมาณ): เลือก ทำเล ค
เพราะ ทำเล ค คะแนน maxscore. รองลงมา (ค = 65)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น